คุณสมบัติและวิธีการรักษาแก้วโอเชียนกลาส
แก้วโอเชียนกลาสได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานจากโรงงานโอเชียนกลาสที่ได้รับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO:9000 แก้วโอเชียนกลาสมีนวัตกรรมทั้งการออกผลิตและการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ประกอบการธุรกิจบริการอาหารและครื่องดื่ม ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร คอฟฟี่ช็อป บาร์ เป็นต้น แก้วโอเชียนกลาสได้ผ่านกระบวนการคุณภาพให้มีมาตรฐานระดับโลก ทั้งลักษณะทางกายภาพ อุณหภูมิ เคมี และความร้อน
แก้วโอเชียนมีลักษณะทางกายภาพที่ดี เช่น ความใส ถ้าเคาะแล้วเสียงดังกังวาล ซึ่งเป็นคุณลักษณะดีของแก้ว ซึ่งสามารถทดสอบได้ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง
แก้วโอเชียนเหมาะสมกับอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ล้างอยู่ที่ 65 - 75 องศาเซลเซียส และเครื่องแก้วยังคงใสอยู่ในช่วงประมาณ 500 รอบการทำความสะอาด
แก้วโอเชียนทนต่อเคมีอ่อน ๆ เช่น น้ำยาล้างจานที่เป็นกรดอ่อน ๆ
แก้วโอเชียนทนต่อความร้อน โดยสามารถใส่น้ำร้อนได้
วิธีการบำรุงรักษาแก้วโอเชียน
1. เวลาเทน้ำจากขวด ระวังปากขวดกระทบแก้วบิ่น
2. ไม่ควรใช้แก้วตักน้ำแข็งโดยตรง ควรใช้ที่ตักแทน
3. ไม่ควรใช้มือรวบแก้ว ทำให้แก้วเกิดการชนกัน ซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิดแก้วบิ่นได้
4. ไม่ควรซ้อนแก้วหรือวางแก้วให้กระทบกัน ยกเว้นแก้วทรงที่สามารถซ้อนกันได้
5. ไม่ควรวางแก้วโอเชียนในอ่างล้างจานจำนวนมากเกินไป เนื่องจากจะทำให้แก้วกระทบกันได้
6. ไม่ควรใส่ช้อน ส้อม มีด หรืออุปกรณ์โลหะอื่นลงในแก้ว
7. ไม่ควรใช้สก็อตไบร์ทล้างแก้วแรง ๆ ควรใช้ฟองน้ำลูบเบา ๆ ก็พอ
8. ควรจัดเก็บโดยให้แก้วหงายขึ้น
เทคนิคการทำให้แก้วโอเชียนมีความใสทนนาน
เติมน้ำส้มสายชูเข้มข้น 2 ถ้วยลงในอ่างน้ำร้อน แล้วแช่แก้วไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง คราบสกปรกที่ติดอยู่บนแก้วจะหลุดและหายไปในที่สุด การใช้น้ำส้มสายชูซึ่งเป็นกรดอ่อน ๆ จะช่วยทำให้คราบที่ติดอยู่บนแก้วหลุดออกเร็วขึ้น
ปรับปรุงน้ำล้างแก้วซึ่งเป็นน้ำกระด้าง โดยการเติมเกลือเม็ด เพราะน้ำกระด้างจะขัดขวางการทำงานของเครื่องล้างจานจะทำให้เกิดตะกอน ลดประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
ควรนำเครื่องแก้วมาล้างเดือนละครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานก็ตาม เนื่องจากเมื่อเก็บแก้วไว้นาน ความชื้นในอากาศจะทำปฏิกิริยากับออกไซด์ในแก้ว ซึ่งจะสร้างคราบบาง ๆ บนพื้นผิวของแก้วได้
การทำความสะอาดและดูแลรักษาภาชนะแก้วให้อยู่กับเรานาน ๆ มีวิธีดังต่อไปนี้
1. วิธีการล้างของบาร์เทนเดอร์ เรียกว่า "Stemware Washing" คือใช้มือจับที่ก้านแก้ว แกว่งแก้วในน้ำยาล้างแก้วผสมน้ำร้อนแรง ๆ แล้วรีบจุ่มล้างแก้วในอ่างน้ำร้อน จากนั้นคว่ำแก้วให้แห้งบนผ้าสะอาด
2. เมื่อล้างครั้งน้ำสุดท้าย ให้เติมน้ำส้มสายชุหรือสารบอแรกซ์เล็กน้อยลงในน้ำ เพื่อทำให้แก้วมีความเงาวาววับ ไร้รอยขีดข่วน เป็นเทคนิคง่ายๆ ค่ะ
3. ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูขัดเช็ดแก้วเมื่อแก้วมีรอยเปื้อนที่เกิดจากตะกอนน้ำกระด้าง
4. ห้ามใช้น้ำร้อน น้ำสบู่ แอมโมเนีย หรือโซดา ล้างแก้วที่มีขอบทองหรือเงิน
5. ถ้าแก้วเปื้อนไข่ดิบ ให้ใช่มะนาวฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ถูตรงบริเวณนั้น
6. เทคนิคการล้างแก้วคริสตัล คือ ใช้น้ำ 3 ส่วน ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน เมื่อล้างแล้วตากให้แห้ง อย่าเช็ด
7. วิธีการเก็บรักษษเครื่องแก้วที่ดีที่สุด คือ ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ที่ชุบน้ำหุ้มภาชนะแก้วแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง กระดาษจะทำหน้าที่เหมืนเกราะป้องกันการแตกหัก
TIP : แก้วสามารถนำมาหลอมรีไซเคิลใช้ใหม่ได้ถึง 30 ครั้ง พลังงานที่ประหยัดได้จากแก้วรีไซเคิล 1 ใบ นั้นเท่ากับ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของหลอดไฟขนาด 400 วัตต์ นานถึง 4 ชั่วโมงทีเดียวค่ะ